Covid 19 Update

สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 เริ่มชะลอตัวลงอย่างชัดเจน หากมองในภาพใหญ่พบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมีอัตราลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากความรุนแรงของสายพันธุ์โอมิครอน ไม่สามารถเทียบเท่าความรุนแรงของสายพันธุ์ที่ผ่านมา อาทิ สายพันธุ์เดลต้า สำหรับประเทศไทย จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลงอย่างต่อเนื่อง ภาครัฐได้ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ในประเทศ รวมทั้งกำหนดให้โควิด 19 เข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นภายในกลางเดือนมิถุนายน 2565
.
สำหรับสถาบันการศึกษา ภาครัฐเองได้ผ่อนคลายมาตรการ โดยให้สถานศึกษาเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ กล่าวคือกลับมามีการเรียนการสอนที่โรงเรียน และนักเรียนกลับมาเรียนที่โรงเรียนเต็มรูปแบบ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละโรงเรียน และยังสามารถจัดการเรียนการสอนแบบ Hybrid คือเรียนที่บ้านแบบออนไลน์ สลับกับที่โรงเรียน หรือให้นักเรียนสลับกันมาเรียนได้เช่นกัน)
.
สำหรับการปฏิบัติตนเพื่อเตรียมความพร้อมหากโควิด 19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น ทั้งด้านการดูแลป้องกันตนเอง การปฏิบัติตนหากมีนักเรียน ครู หรือบุคลากรในโรงเรียนติดเชื้อโควิด รองรับการเปิดภาคเรียนที่ 1/2565 มีดังนี้:
📍หลักการ “ตัดความเสี่ยง สร้างภูมิคุ้มกัน” ด้วย 3T1V
T : Thai Stop Covid Plus (TSC+) สถานศึกษาต้องประเมินตนเองเตรียมพร้อมก่อนเปิดเรียน
T : Thai Save Thai (TST) นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ประเมินความเสี่ยงตนเองเป็นประจำ
T : Test ตรวจคัดกรอง เฝ้าระวังอย่างเหมาะสม เช่น ATK เมื่อมีความเสี่ยงหรือมีอาการ
V : Vaccine ครู บุคลากร ผู้ปกครอง และเด็ก อายุ 5-18 ปี ได้รับวัคซีนโควิด 19- ตามเกณฑ์
.
📍มาตรการสร้างความปลอดภัย ป้องกันโควิด 19 ในสถานศึกษา (6 หลัก 6 เสริม 7 เข้ม)
6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) : เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ ตรวจคัดกรอง ลดแออัด ทำความสะอาด
6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) : ดูแลตนเอง ใช้ช้อนส่วนตัว ทานอาหารปรุงสุกใหม่ ลงทะเบียนเข้า-ออก ส ารวจตรวจสอบ กักกันตนเอง
.
📍7 มาตรการเข้ม
1. ประเมิน Thai Stop Covid Plus (TSC+) และรายงานผล ผ่าน MOECOVID
2. ทำกิจกรรมกลุ่มย่อย (Small Bubble)
3. จัดระบบการให้บริการอาหารตามหลักสุขาภิบาลและโภชนาการ
4. อนามัยสิ่งแวดล้อมตามเกณฑ์มาตรฐาน
5. แผนเผชิญเหตุ มีการซักซ้อม รวมถึง การเตรียมพร้อม School Isolation
6. ควบคุมดูแลการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียนให้ปลอดภัยเน้นมาตรการปลอดภัยของรถโรงเรียน
7. School Pass สำหรับนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษา
.
🔴กรณีนักเรียน ครู บุคลากร เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ
เรียนในพื้นที่สถานศึกษา (On-Site) ตามปกติ ทำตามมาตรการ Universal Prevention และประเมิน Thai Save Thai (TST) จัดระยะห่างระหว่างนักเรียนในห้องไม่น้อยกว่า 1 เมตร
.
🔴กรณีนักเรียน ครู บุคลากร เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
แยกกักกันที่บ้าน หรือสถานที่ตามคำแนะนำของหน่วยบริการสาธารณสุข ตรวจคัดกรองหาเชื้อทันที่ถ้ามีอาการ และให้ตรวจครั้งที่1 ในวันที่ 5-6 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ และตรวจครั้งสุดท้ายในวันที่ 10 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ กรณี นักเรียนได้รับวัคซีนครบตามคำแนะนำในปัจจุบันและไม่มีอาการ ไม่แนะนำให้กักกัน ให้ตรวจ ATK ซ้ำในวันที่ 5 หรือ มีอาการพร้อมแยกกักกัน ให้สังเกตอาการครบ 10 วัน พร้อมปฏิบัติตัวตามมาตรการขั้นสูงสุด สถานศึกษาจัดการ เรียนการสอนอย่างเหมาะสม เว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 2 เมตร และประสานหน่วยบริการสาธารณสุขตามระบบอนามัยโรงเรียน
.
🔴กรณีนักเรียน ครู บุคลากร เป็นผู้ติดเชื้อ
– แยกกักตัวที่บ้าน ( Home Isolation) หรือตามความเห็นชอบของสถานบริการด้านสาธารณสุข
– ติดต่อ 1330 สปสช. ต่อ 14 หรือหน่วยบริการสาธารณสุข
– ปฏิบัติตามมาตรการการรักษาของกระทรวงสาธารณสุข
– พิจารณาจัดทำ School Isolation ตามความเหมาะสม โดยคณะกรรมการสถานศึกษา หน่วยงาน สาธารณสุข ผู้ปกครอง ชุมชน พิจารณาร่วมกันให้ความเห็นชอบ และปฏิบัติตามมาตรการ Sandbox: Safety Zone in School (SSS)
– สถานศึกษาจัดรูปแบบการเรียนการสอนที่เหมาะสม โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีอาการ
– ทำความสะอาดห้องเรียน ชั้นเรียน สถานศึกษา และเปิดเรียนตามปกติ
.
โรงเรียนมัธยมปัญญารัตน์ยังคงปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโควิด 19 รวมไปถึงการเว้นระยะห่าง มีการตรวจสอบ พร้อมทั้งมีการดูแลทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคในบริเวณต่างๆ รวมทั้งอุปกรณ์ของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน ครู และบุคลากรของโรงเรียนทุกคน
.
.
———-
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่:
📞+66-81-1236530
🟢LINE: @panyarathighschool หรือคลิก https://lin.ee/i6iC6CC
🔵Facebook Inbox: m.me/panyarathighschool
✉️ phs@panyarathighschool.ac.th